PREB ประเมินครึ่งปีหลังแนวโน้มธุรกิจสดใสกอด Backlog งานก่อสร้าง 6,000 ลบ.ลุยเปิดแนวราบ 2 โครงการมูลค่า1,200 ลบ. หนุนผลงานปีนี้โตเข้าเป้า10 %

PREB ประเมินครึ่งปีหลังแนวโน้มธุรกิจสดใสกอด Backlog งานก่อสร้าง 6,000 ลบ.ลุยเปิดแนวราบ 2 โครงการมูลค่า1,200 ลบ. หนุนผลงานปีนี้โตเข้าเป้า10 %

บมจ.พรีบิลท์ (PREB) ประเมินครึ่งปีหลังแนวโน้มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง-อสังหาริมทรัพย์มีทิศทางที่ดีกว่าครึ่งปีแรก หวังกำลังซื้อฟื้นจากสถานการณ์เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น เผยกอด Backlog งานก่อสร้างไว้แล้ว6,000 ล้านบาท พร้อมทั้งรับรู้ยอดขายรอโอนจาก 5 โครงการที่มีอยู่ในมือ ฟากซีอีโอ"วิโรจน์ เจริญตรา" ระบุแผนงานครึ่งปีหลังปักหมุดประมูลงานก่อสร้างต่อเนื่อง เตรียมเปิด 2 โครงการใหม่ "โครงการพิมนารา ศาลายาและโครงการพรรณนา ทวีวัฒนา" มูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท  มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตเข้าเป้าเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน

นายวิโรจน์ เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีบิลท์ จํากัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่าภาพรวมการดำเนินธุรกิจในครึ่งแรกของปี 2566 ผ่านไปด้วยดีและเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ขณะที่แนวโน้มในครึ่งปีหลังคาดว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อน่าจะปรับตัวดีขึ้นได้ โดยปัจจุบัน บริษัทฯมีงานในมือรอรับรู้รายได้(Backlog) จากงานก่อสร้างมูลค่า 6,000 ล้านบาท พร้อมวางเป้าหมายภายใน 5 ปีข้างหน้าบริษัทจะมีรายได้รวมที่ระดับ 8,000 ล้านบาท

รวมทั้งในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังมียอดขายรอโอนจาก 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพิมนารา ศรีนครินทร์ – บางนา โครงการพิมนารา ธรรมศาสตร์ – รังสิต โครงการพรีวิลเลจ ธรรมศาสตร์ – รังสิต และที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปีอีก 2 โครงการ คือ โครงการพิมนารา ศาลายาและโครงการพรรณนา ทวีวัฒนา ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะมีมูลค่ายอดโอนรวมกันกว่า 1,200 ล้านบาท

"ภาพรวมธุรกิจในปีนี้ยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตที่ระดับ 10% และบริษัทฯมีแผนจะเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ยื่นประมูลงานรับเหมาก่อสร้างใหม่ ซึ่งเป็นงานก่อสร้างประเภทคอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงาน รวมทั้งยังมีงานที่รอประมูลใหม่อีกจำนวนมาก ซึ่งมั่นใจว่าจะสนับสนุนการเติบโตได้อย่างมั่นคง"

สำหรับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในระยะยาวภายใน 5 ปีข้างหน้าบริษัทจะมีรายได้รวมที่ระดับ 8,000 ล้านบาท และภายใน 3 ปีจะเพิ่มสัดส่วนกำไรของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็น 50% ของกำไรรวมจากปี 2565 มีสัดส่วนอยู่ที่ 20% ขณะที่กำไรมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่ 80% โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะนำเสนอระบบการก่อสร้างที่พักอาศัยด้วยระบบการทำงานแบบใหม่มีการศึกษาและการนำนวัตกรรม หรือการนำสินค้าหรือวัสดุใหม่ๆ รวมถึงวัสดุ Pre-Cast ที่พัฒนาในลักษณะเฉพาะของบริษัทเองให้กับโครงการขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อบริหารต้นทุนค่าก่อสร้าง ลดระยะเวลาก่อสร้างและสามารถควบคุมคุณภาพได้ดีมากขึ้น

ข่าวเกี่ยวข้อง